ราล์ฟ รังนิก รักษาการผจก.ทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ยกชื่อ 3 เฮดโค้ชฟุตบอลที่มีอิทธิพลต่อการทำงานของเขาล้วนเป็นสายพลัง หนึ่งในนั้นคือ อาร์ริโก ซาคคี่ ขงเบ้งอิตาเลี่ยนที่พา เอซี มิลาน ครองความยิ่งใหญ่ทศวรรษ 1980

แบ็คกราวน์ดของ รังนิก ถือว่าน่าสนใจเพราะคือคนดอยช์ใฝ่เรียน เคยมาศึกษาที่มหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษจนหลงใหลบรรยากาศลูกหนังเมืองผู้ดี

 นำไปสู่การเดินสายเฮดโค้ชตั้งแต่วัยหนุ่ม จนมีโอกาสเจริญก้าวหน้าอย่างทุกวันนี้ซึ่งไอดอลของแกประกอบด้วย ซาคคี่, เฮลมุท กรอสส์ โค้ชระดับสมัครเล่นที่บ้านเกิด และกุนซือขาวยูเครน วาเลรี่ โลบานอฟสกี้ 

“ใช่เลยมีกุนซือ 2-3 รายที่สร้างแรงบันดาลใจแก่ผม เริ่มจากคนแรกเป็นเพื่อนกันเลยเขาชื่อ เฮลมุท กรอสส์” การเปิดปากกับเว็บไซต์ทางการ 

“ไม่เพียงสร้างแรงบันดาลใจแก่ผม แต่ยังรวมถึงกุนซือหลายคนวงการฟุตบอลเยอรมัน แม้เป็นแค่กุนซือทีมสมัครเล่น เพราะงานประจำคือวิศวกรที่ถนัดงานโครงสร้างสะพาน”

“ แต่ในเวลาเดียวกันเขาคือโค้ชคนแรกๆในเยอรมันที่ทำทีมเล่นแผงกองหลัง 4 คน เน้นการประกบคู่แข่งร่วมสมัยด้วยวิธียืนโซน” 

“มีโอกาสได้พบกันตอนตัวผมเพิ่งอายุ 23, 24 ปี นับเป็นผู้มีอิทธิพลสำคัญในการพัฒนางานโค้ชของผม แล้วนับจากนั้นเราก็ทำงานร่วมกันที่ ฮอฟเฟ่นไฮม์ และอาณาจักร เร้ด บูลล์”  

“ส่วนระหว่างที่ผมเป็นโค้ชแล้ว ชอบศึกษางาน อาร์ริโก ซาคคี่ ที่ มิลาน ช่วงทศวรร’80 พวกเขาไม่เพียงผงาดในวงการฟุตบอลยุโรป แต่ยังสร้างสรรค์ฟุตบอลที่ยั่งยืน, ฟุตบอลที่พิเศษมากๆ เป็นสไตล์ฟุตบอลที่มีความเฉพาะตัว” 

“อีกคนคือตอนผมคุมทีมบ้านเกิด แบ็คนัง เราได้ดวลกึ๋น ดินาโม เคียฟ ที่มี  วาเลรี่ โลบานอฟสกี้ คุมทัพ – ซึ่งตอนอยู่บนสนามพยายามนับตัวผู้เล่นคู่แข่งว่ามันโกงเราส่งลงมากกว่าหรือเปล่า”

“หลังจบเกมได้คุยกับแกผ่านล่าม ก็ถึงบางอ้อว่าพวกเขาซ้อมแบบนั้นทุกวัน เพรสซิ่งจากทุกตำแหน่งบนสนามตลอดเวลา” 

“ดังนั้นจึงขอไปดูให้เห็นกับตา ซึ่งพอดูของจริงก็ทราบเลยว่าทำไมพวกเขาเล่นแบบนั้นได้ ซึ่งมันไม่มีทางเกิดหากไร้การฝึกซ้อมสม่ำเสมอทุกวัน”

รังนิก สไตล์ นับเป็นต้นแบบแก่กุนซือดอยช์ยุคปัจจุบันที่แตกหน่อมาอันได้แก่ เจอร์เก้น คล็อปป์, โธมัส ทูเคิ่ล และ ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์

Posted in ข่าวแมนยู