Author: Athipdapzaza

เอริค วีนัลด้า ตำนานนักเตะทีมชาติสหรัฐอเมริกา ชี้จะไม่แปลกใจเลยหาก คริสเตียน พูลิซิช จะย้ายออกจาก เชลซี แต่แนะว่าควรจะไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มากกว่า อาร์เซน่อล แข้งวัย 24 ปีล้มเหลวในการแย่งตำแหน่งตัวจริงในทีมมาตั้งแต่ยุคของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด, โธมัส ทูเคิ่ล มาจนถึง แกรม พ็อตเตอร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ มาร์ค พูลิซิช พ่อของนักเตะเคยออกมาบอกว่าอาจจะถึงเวลาที่ลูกชายต้องย้ายทีมแล้ว ในขณะที่ปัจจุบันเจ้าตัวยังคงมีข่าวเรื่องย้ายทีมซึ่งทาง อาร์เซน่อล มีข่าวว่าสนใจอยู่ แต่ วีนัลด้า มองว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ดูจะเหมาะสมกับ พูลิซิช มากกว่า “ผมจะไม่แปลกใจเลยหาก เชลซี ปล่อยยืมตัว พูลิซิช, มีการพูดคุยกันอย่างหนาหูว่า แกรม พ็อตเตอร์ ไม่ชอบเขา” วีนัลด้า กล่าวกับ เวกัสอินไซเดอร์ “ผมไม่แน่ใจว่า อาร์เซน่อล จะเป็นจุดหมายที่ดีเหมาะกับ พูลิซิช หรือเปล่า แต่ผมชอบแนวคิดที่ว่าเขาจะย้ายไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เมื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แยกทางกับสโมสรไป มันจะสร้างบรรยากาศใหม่ในทีม”

มาร์ติน ซูบีเมนดี้ มิดฟิลด์วัย 23 ปีของ เรอัล โซเซียดาด กำลังตกเป็นเป้าหมายของ เอริก เทน ฮาก ที่ต้องการดึงไปเสริมแดนกลางของทีมปีศาจแดง

‘เดียรีโอ อาส’ สื่อเมืองกระทิงรายงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า เอริก เทน ฮาก กุนซือ แมนฯยูไนเต็ด หมายตามาที่ มาร์ติน ซูบีเมนดี้ โดยพร้อมจ่ายเงิน 60 ล้านยูโรค่าฉีกสัญญานักเตะจาก เรอัล โซเซียดาด เพื่อดึงมาเสียบแทน เฟร็ด ที่กำลังจะสิ้นสุดสัญญาในช่วงซัมเมอร์ปีหน้า 

แมนฯยูไนเต็ด เซ็นสัญญากับ การ์ลอส กาเซมีโร่ และ คริสเตียน เอริคเซ่น ในช่วงซัมเมอร์ปีที่ผ่านมา แต่ เทน ฮาก ยังต้องการอัพเกรดแดนกลางเพิ่มเติมโดยเฉพาะการหาตัวแทนของ เฟร็ด ที่กำลังจะหมดสัญญาในช่วงหน้าร้อนปี 2023 โดย ‘เดียรีโอ อาส’ รายงานทีมปีศาจแดงอาจยินดีจ่ายเงินค่าฉีกสัญญา 60 ล้านยูโรเพื่อดึง ซูบีเมนดี้ ไปจากอ้อมอกของ เรอัล โซเซียดาด

ซูบีเมนดี้ เป็นเด็กปั้นของ เรอัล โซเซียดาด ก้าวขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ซีซั่น 2018-2019 และกลายเป็นขุมกำลังสำคัญของทัพ ‘ลา เรอัล’ ในปัจจุบัน เขากำลังตกเป็นเป้าหมายเสริมทัพของ บาร์เซโลน่า ที่กำลังมองหาทายาทของ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ แต่ทีมอาซูลกราน่าไม่มีทุนมากพอสำหรับการจ่ายค่าฉีกสัญญานักเตะที่ยังมีสัญญาจนถึงปี 2027

ตามรายงานระบุว่า แมนฯยูไนเต็ด เฝ้าดูฟอร์มของ ซูบีเมนดี้ ทั้งสองนัดที่พวกเขาเผชิญหน้ากันบนเวที ยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม โดยแข้งวัย 23 ปีเล่นได้ทั้งมิดฟิลด์ตัวรับ และมิดฟิลด์ตัวกลาง เขาเข้าปะทะเฉลี่ย 2 ครั้งและสกัดหนึ่งครั้งต่อเกม อีกทั้งยังเป็นฝ่ายชนะในการดวลกลางอากาศถึง 75 เปอร์เซ็นต์ 

แมนฯ ยูไนเต็ด ตกเป็นข่าวว่าจะต้องเผชิญหน้ากับการแข่งขันจาก เปแอสเช และ บาเยิร์น มิวนิค ในการคว้าตัว ชูเอา เฟลิกซ์ มาในเดือนมกราคมนี้ ขณะที่ แอต. มาดริด ก็พร้อมขายเขาในราคา 100 ล้านยูโร

มีความตึงเครียดแฝงตัวอยู่ในทีมเมืองหลวงของสเปนในฤดูกาลนี้ ระหว่าง เฟลิกซ์ และ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่

อาส สื่อเมืองกระทิงดุรายงานถึงความขัดแย้งระหว่างพวกเขาว่ามาถึงจุดที่ย่ำแย่แล้ว และตอนนี้ ตราหมี ก็พร้อมที่จะถอนทุนคืนจาก เฟลิกซ์ อย่างเร็วที่สุดในเดือนมกราคม ด้วยตัวเลขราว 100 ล้านยูโร (86 ล้านปอนด์)

แอตเลติโก สร้างสถิติด้วยการเซ็นสัญญากับ เฟลิกซ์ ในปี 2019 มาจาก เบนฟิก้า ด้วยค่าตัว 114 ล้านปอนด์

แต่ผลที่ตามมาคือความคาดหวังอันสูงลิบ และเขาก็ล้มเหลวที่จะสร้างผลกระทบอย่างสม่ำเสมอ โดยยิ่งพบว่าตัวเองต้องอยู่บนม้านั่งสำรองบ่อยขึ้นในช่วงหลังด้วย

แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังมองไปยังการเสริมทัพในแนวรุกหลังยกเลิกสัญญากับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เมื่อเดือนที่แล้ว รวมถึงอาการบาดเจ็บที่คาดเดาไม่ได้ของ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล

นอกจากนี้ เจดอน ซานโช่ ก็ดิ้นรนกับฟอร์มการเล่น นั่นทำให้เหลือเพียง มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อันโตนี่ เท่านั้นที่ เอริก เทน ฮาก เชื่อใจได้

อาส ได้ระบุว่า หลุยส์ กัมโปส ผู้อำนวยการกีฬาของ เปแอสเช อยากได้ตัว เฟลิกซ์ และเขาก็สามารถขายวิสัยทัศน์ว่านักเตะจะเข้ากับระบบของ คริสตอฟ กัลติเย่ร์ ใน ปารีส ได้อย่างไร

จอร์จ เมนเดส เอเยนต์ของ เฟลิกซ์ ก็ได้รับการกล่าวขานว่ากำลังหาสโมสรใหม่ให้กับนักเตะด้วย โดยไม่หวังที่จะซ่อมแซมความสัมพันธ์กับ แอตเลติโก แต่อย่างใด

สำหรับ เฟลิกซ์ ทำได้เพียง 4 ประตู จาก 18 เกม ให้กับ ตราหมี ในฤดูกาลนี้

กาเซมีโร่ มิดฟิลด์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับว่าสุดทึ่งกับอารมณ์ร่วมของแฟนบอลที่มีต่อสโมสร และสิ่งที่ตนเองได้รับนับตั้งแต่ย้ายมาค้าแข้งที่อังกฤษ

         มิดฟิลด์วัย 30 ปีเพิ่งย้ายมาอยู่ในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในซีซั่นนี้และกลายเป็นขวัญใจคนใหม่ของแฟนบอลอย่างรวดเร็ว ซึ่งเจ้าตัวก็รู้สึกประทับใจอย่างมากกับแรงเชียร์และความหลงใหลของแฟนบอลที่มีต่อเกมลูกหนัง

         “ทั้งสองสโมสร (เรอัล มาดริด และ แมนฯ ยูไนเต็ด) มีสิ่งที่ยอดเยี่ยม แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมเซอร์ไพรส์มากสุดที่นี่คือกองเชียร์ แพสชั่นของพวกเขาที่มีต่อเกมและวิธีที่พวกเขาใช้ชีวิตที่มีต่อฟุตบอล” กาเซมีโร่ กล่าวกับเว็บไซด์สโมสร

         “เมื่อสุดสัปดาห์มาถึง กับการใช้ชีวิตของแฟนบอลที่มีต่อฟุตบอล การมีอารมณ์ร่วมในฟุตบอล คุณสามารถเห็นได้ว่าเมื่อฟุตบอลคือแพสชั่นของพวกเขาและฟุตบอลคือชีวิตของพวกเขา”

         “ดังนั้นมันไม่ใช่แค่ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ตอนเล่นเกมในบ้าน แต่เกมเยือนด้วยเช่นกัน, ว้าว, มันน่าทึ่งอย่างมากทั้งแฟนบอล บรรยากาศ และวิธีที่พวกเขาคอยเชียร์เรา มันมหัศจรรย์จริงๆ มันคือหนึ่งในหลายสิ่งที่ทำให้ผมเซอร์ไพรส์อย่างมากนับตั้งแต่มาที่อังกฤษ”

         “คุณไม่ต้องการอะไรไปมากกว่านี้จากแฟนบอล ยิ่งไปกว่านั้นคุณต้องขอบคุณพวกเขากับแรงสนับสนุน ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนั้นมาก่อน”

วิลเลี่ยม ฮิลล์ บ่อนรับพนันถูกกฎหมายของอังกฤษเพิ่มราคาจ่ายที่ แมนฯ ซิตี้ จะเป็นแชมป์ เอฟเอ คัพ 2022-23 จากเดิม 3/1 (แทง 1 จ่าย 3 ไม่รวมทุน) มาเป็น 7/2 (แทง 2 จ่าย 7 ไม่รวมทุน) แต่คงเป็นเต็งหนึ่งเช่นเดิม

ผลจับสลากออกมาล่าสุดูไม่เป็นใจกับลูกทีมของ โจเซป กวาร์ดิโอล่า เท่าไหร่เพราะต้องเปิดเอติฮัด สเตเดี้ยม รับมือ เชลซี ทีมในกลุ่ม ‘บิ๊ก 6’ ด้วยกัน  

อีกทั้งก็ดูเป็นรายการที่บอสสแปนิชยากเอาแชมป์มากสุดเนื่องจากตั้งแต่ม่คุมซีซั่น 2016-17 ได้ครองเกียรติยศหนเดียวปี 2019 จากนั้นสามฤดูกาลร่วงแค่รอบรองฯ 

ส่วน ลิเวอร์พูล เจ้าของตำแหน่งอยู่เต็งสองเรต 11/2 (แทง 2 จ่าย 11 ไม่รวมทุน) เพราะได้เล่นฐานะทีมเหย้าพบ วูล์ฟแฮมป์ตัน ซึ่งเวลานั้นจะมีเจ้าพ่อฟุตบอลถ้วย จูเลน โลเปเตกี กุมบังเหียน 

ลำดับรองๆลงมาที่น่าสนใจคือ สเปอร์ส เต็งสาม (7/1), อาร์เซน่อล เต็งสี่ (8/1), เต็งห้าร่วม แมนฯ ยูไนเต็ด กับ นิวคาสเซิ่ล (10/1) และ เต็งเจ็ด เชลซี (12/1)

เกมเอฟเอ คัพ รอบสาม กรอบคร่าวๆเตะระหว่างวันที่ 6-9 มกราคม 2023 ซึ่งจะมีการกำหนดอีกครั้งในภายหลัง 

การ์ลอส กาเซมีโร่ กองกลางตัวปิดทองหลังพระทีมชาติบราซิลบอกเกมวานนี้ที่ปราบ สวิตเซอร์แลนด์ 1-0 จนเข้ารอบน็อคเอาต์ดูเผินเขาอาจเป็นฮีโร่เพราะยิงประตูชัย แต่ทั้งหมดเกิดไม่ได้หากปราศจากความร่วมไม้ร่วมมือจากทุกฝ่าย

‘แซมบ้า’ กรุยทางสู่รอบ 16 ทีม โดยนับเป็นการรักษาสถิติไร้พ่ายในกรุ๊ป สเตจ เวิลด์ คัพ รอบสุดท้ายต่อเนื่อง 17 นัด ส่งผลให้แมตช์ปิดงานกลุ่ม จี พบ แคเมอรูน (2 ธ.ค.) แค่เสมอก็ครองที่หนึ่ง 

 งานนี้มิดฟิลด์จาก แมนฯ ยูไนเต็ด โล่งอกที่ช่วยมาตุภูมิบรรลุเป้าหมายแรกไปได้ ทั้งนี้อยากแบ่งปันความดีความชอบกับทุกๆคน มากกว่าเคลมแค่ตนเอง 

“ผมเป็นผู้ทำประตูแต่สิ่งสำคัญสุดคือแอสซิสต์จากทั้งทีม” เจ้าของตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมของเกมเปิดปาก 

“เมื่อเราชนะก็ชนะกันทั้งทีม, เมื่อเราแพ้ก็กอดคอรับผิดชอบผลด้วยกัน ทัศนคติแบบนั้นไม่เคยเปลี่ยนไปจากผม” 

“เราลงเรือลำเดียวกัน เล่นนามทีมชาติบราซิล ดังนั้นเราต้องเตะเพื่อทีม -มันคือสิ่งสำคัญสุดหากคุณหวังแชมป์” 

“ชัดเจนว่าเป้าหมายแรกผมเล่นเพื่อสนับสนุนทีม สร้างดุลยภาพ”

“ผมต้องการประคองทีมเมตตั้งแต่แดนหลัง เอาตัวรอดจากสถานการณ์กดดันไม่ว่าอยู่พื้นที่ไหน” 

“แล้วเมื่อคุณดวลคู่แข่งที่มาเน้นตั้งรับ เราก็ต้องประเมินสถานการณ์ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ภารกิจแรกของผมคือเกมรับ แต่ถ้ามีโอกาสส่งบอลตุงตาข่ายมันก็เป็นงานที่สำคัญเช่นกัน” 

ตั้งแต่รับใช้ชาติกองกลางวัย 30 ปีเพิ่งทำประตูลูกนี้เป็นลำดับ 6 ส่วนเหยื่อคมแข้งก่อนนี้ได้แก่ เอกวาดอร์, โคลอมเบีย (2 ครั้ง), ไนจีเรีย และ เปรู 

แกรี่ เนวิลล์ นักวิเคราะห์ ไอทีวี ชื่นชมความมือาชีพของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กองหน้าทีมชาติโปรตุเกสว่าสามารถแยกแยะความขัดแย้งต่ออดีตต้นสังกัด แมนฯ ยูไนเต็ด เพื่อประสานงาน บรูโน่ แฟร์นันด์ส ทีมเมตเก่าได้อย่างราบรื่นบนเวิลด์ คัพ

ยูไนเต็ด บรรลุข้อตกลงร่วมกับสตาร์วัย 37 ปียกเลิกข้อผูกมัดที่เหลืออีก 6 เดือนสุดท้ายเพื่อปล่อยนักเตะหลุดสู่สถานะไร้สังกัดจนพร้อมเจรจาร่วมงานกับทุกค่าย ขณะที่ทีมก็เซฟค่าใช้จ่ายกว่า 16 ล้านปอนด์    

ผลสืบเนื่องจากการไปสัมภาษณ์ ‘ทอล์ก ทีวี’ โจมตี ‘ปีศาจแดง’ ในหลายประเด็นจนทำให้ บรูโน่ ฐานะแข้งปัจจุบันค่อนข้างผิดหวังต่อดาวเตะรุ่นพี่จนหมางเมินใส่ระหว่างแคมป์ทีมชาติช่วงแรก 

แต่เมื่อเข้าทัวร์นาเมนต์ทุกอย่างคลี่คลายนำมาซึ่งการประสานอย่างลื่นไหลจน บรูโน่ กด 2 ประตู, สองแอสซิสต์ในทัวร์นาเมนต์ ส่วน ‘ซีอาร์ 7’ทำหนึ่งจุดโทษ

“คริสเตียโน่ น่าเหลือเชื่อ งัดฟอร์มตอบโต้เสียงวิจารณ์ ไม่เหมือนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งเขารู้สึกว่าถูกหมางเมิน” อดีตทีมเมตโรนัลโด้ กล่าว

“แต่นามทีมชาติ โปรตุกีส ทุกคนเอ็นดูหมอนั่น, ทีมเมต, ความสัมพันธ์กับเฮดโค้ชยอดเยี่ยม และผมคิดว่าทัวร์นาเมนต์ เวิลด์คัพ แต่ละชาติต้องมีตัวทีเด็ดแบบ โรนัลโด้, ลิโอเนล เมสซี่ หรือ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ เพื่อปล่อยของ” 

“มีโอกาสได้ดูเกมของ โปรตุเกส นัดก่อน (ชนะ กานา 3-2) คิดว่าครึ่งแรกสมดุลในทีมแย่ เมื่อให้ บรูโน่ เล่นด้านขวา, คริสเตียโน่ หอกเป้า-มันไม่เข้าท่าอย่างกับตอนเกิดที่ ยูไนเต็ด” 

“กระทั่งเมื่อ ราฟาเอล เลเอา ลงมา ประสาน คิรสเตียโน่ กับ ชูเอา เฟลิกซ์ แดนหน้า จากนั้นถอย บรูโน่ เล่นกองกลางกับ แบร์นาร์โด ซิลวา ค่อยยกระดับผลงานขึ้น” 

“นั่นเป็นวิธีการสร้างเกมรุกที่ดีของพวกเขา” 

“โปรตุเกสมีขุมกำลังที่ดี มีหอกเป้าที่หัวจิตหัวใจห้าวหาญยิ่งใหญ่ที่เชื่อว่านี่คือโมงยามของตัวเอง เชื่อว่าจะได้ชูถ้วยแชมป์โลก เขาเชื่อแบบนั้น” 

“ซึ่งมันก็ส่งผ่านไปยังทีมเมตที่เหลือ อย่างที่ทำมันบนชปล.สมัยเล่นให้ เรอัล มาดริด” 

“ช่วง บาร์เซโลน่า ครองความเป็นมหาอำนาจ ลา ลีกา สเปน แต่ มาดริด ได้ถึง 5 แชมป์ชปล.ช่วง โรนัลโด้ เล่นด้วย ก็เพราะหมอนั่นทำได้ดีในโมงยามอันยิ่งใหญ่” 

“ผลงานของเขาในทัวร์นาเมนต์นี้ไม่สร้างความประหลาดใจแก่ผม -มันก็เหมาะสมที่ คริสเตียโน่ จะทิ้ง ยูไนเต็ด แล้วสโมสรก็ทำถูกที่ปล่อยให้ไปเช่นกัน” 

โปรตุเกส ไม่เคยชนะฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย สองนัดแรกติดกันได้เลยนับจาก เวิลด์ คัพ 2006 ที่เยอรมัน ซึ่งหนนั้นได้ที่สี่

โอลิเวอร์ คาห์น ซีอีโอของสโมสร บาเยิร์น มิวนิค ยืนยันไม่สนใจดึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ร่วมทีม เพราะไม่ตรงกับแนวทางการสร้างทีมของสโมสร

บาเยิร์น มิวนิค กลายเป็นหนึ่งในสโมสรใหญ่ที่ตกเป็นข่าวกับ โรนัลโด้ หลังจากกัปตันทีมชาติโปรตุเกสถูกยกเลิกสัญญาจากต้นสังกัด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อันเนื่องมาจากประเด็นการให้สัมภาษณ์โจมตีสโมสร

อย่างไรก็ตาม คาห์น ปฏิเสธโอกาสที่จะดึง โรนัลโด้ มาร่วมทัพ แม้สามารถเซ็นสัญญาแบบไม่มีค่าตัวได้หลังจบศึกฟุตบอลโลก 2022 ก็ตาม

“ใช่ ผมสามารถปฏิเสธเรื่องนั้น” คาห์น เผยกับ สกาย เยอรมนี

“แน่นอน เป็นหน้าที่ของเราที่จะตรวจสอบถึงความเหมาะสม เรามีปรัชญาที่ชัดเจนในทีมของเรา เราทุกคนต่างชื่นชมและรัก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่เขาไม่ตรงกับความคิดของเรา”

คาห์น ยังพูดถึงข่าวระหว่าง บาเยิร์น กับ แฮร์รี่ เคน ศูนย์หน้าของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ อีกด้วย

“เคน เป็นนักเตะที่เก่งมากๆ แต่ก็มีนักเตะเก่งๆ อีกหลายคน อย่าง เอริก มักซิม ชูโป-โมติง ที่เล่นได้ดีมาก”

“และผมก็ได้อ่านข่าวเยอะแยะว่า โอลิเวอร์ คาห์น ต้องการ แฮร์รี่ เคน เรากำลังมองหานักเตะคนนั้นคนนี้ แต่ผมไม่คิดว่ามันโอเคสักเท่าไหร่ที่จะพูดถึงนักเตะของสโมสรอื่นในที่สาธารณะ”

อัล นาสเซอร์ ในลีกซาอุดิอาระเบียพร้อมจ่ายเงิน 225 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในสัญญา 3 ปีเพื่อดึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไปร่วมทีม

กองหน้าวัย 37 ปีเพิ่งแยกทางกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากทั้งสองฝ่ายตกลงกันด้วยดี โดยสาเหตุเป็นเพราะนักเตะให้สัมภาษณ์โจมตีสโมสรและกลายเป็นข่าวใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา

ล่าสุดมีการเผยถึงอนาคต ‘CR7’ โดยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เจมส์ เบนจี และ เบน เจค็อบส์ นักข่าวฟุตบอลจาก ซีบีเอส สปอร์ตส์ เผยว่า อัล นาสเซอร์ พร้อมทุ่มเงิน 225 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 8 พันล้านบาท) ในสัญญา 3 ปีให้ โรนัลโด้ พิจารณา

สื่อจากสหรัฐฯ เผยต่อไปว่า อัล นาสเซอร์ แสดงความสนใจ โรนัลโด้ อย่างมาก และพร้อมเข้าหาดาวเตะชาวโปรตุเกสหลังจบฟุตบอลโลกที่กาตาร์ โดยตอนนี้ ‘CR7’ เป็นนักเตะไร้สังกัดที่สามารถเจรจากับสโมสรใดก็ได้

ข้อเสนอปีละ 75 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ถือเป็นเงินก้อนโตอย่างมากสำหรับนักเตะที่อายุเข้าใกล้เลข 4 และทาง อัล นาสเซอร์ ปรารถนาให้ โรนัลโด้ ตอบรับข้อเสนอดังกล่าวหลังจบศึกฟุตบอลโลกกับทีมชาติโปรตุเกส

อย่างไรก็ตาม ทีมดังจากซาอุฯ ไม่ใช่สโมสรเดียวที่สนใจ โรนัลโด้ กระนั้นทางนักเตะต้องการทำหน้าที่และมีสมาธิในเวที เวิลด์คัพ เป็นลำดับแรก ซึ่งหลังจากนั้นค่อยพิจารณาเรื่องอนาคตของตนเองในเส้นทางนักเตะอาชีพต่อไป

จอห์น โอบี มิเคล อดีตกองกลางของ เชลซี วิจารณ์ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับการให้สัมภาษณ์วิจารณ์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมเตือนสโมสรที่อยากได้ไปร่วมทีมว่าอาจจะเจอแบบเดียวกัน

         “ปีศาจแดง” ยกเลิกสัญญากับ โรนัลโด้ เมื่อวันอังคารหลังจากสัมภาษณ์กับ เพียร์ส มอร์แกน ซึ่งทาง มิเคล ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของสตาร์ทีมชาติโปรตุเกส พร้อมเตือนทีมอื่นที่อยากจะได้ร่วมทีมให้ระวังเช่นกัน

         “ผมไม่เคยเป็นแฟนบอลของ โรนัลโด้ เลย, สำหรับผมแล้ว เมื่อนักเตะมีอีโก้มากเกินไป ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ” มิเคล กล่าวกับ ดูไบ อาย

         “เขาไม่เคยเป็นหนึ่งในผู้เล่นคนโปรดของผมและนั่นทำให้ผมเลือก (ลิโอเนล) เมสซี่ อยู่เสมอ, ผมหมายถึงว่าถ้ามีคนออกมาให้สัมภาษณ์แบบนั้น อะไรทำให้คุณคิดว่าถ้าเขาเซ็นสัญญากับสโมสรของคุณในเดือนมกราคม เขาจะไม่ทำแบบเดียวกัน?”

         “ดังนั้น ผมหมายถึงว่าทุกสโมสรต้องตระหนักถึงเรื่องนี้ แต่ฟังนะ เขาคือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เขาคือหนึ่งในนักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเกมลูกหนัง”

         “ผมคิดว่าเขากำลังจะย้ายไปสโมสรอื่นในเดือนมกราคมและเดินหน้าในเส้นทางอาชีพของเขาต่อไป แต่สำหรับผมมันเป็นสถานการณ์ที่เลวร้าย เขาทำเพื่อสโมสรมามากและการได้เห็นมันจบลงแบบนี้มันแย่จริงๆ”

         “ในส่วนของเขา ผมจะบอกว่ามันเป็นการสัมภาษณ์นั้นไม่ควรทำ ผิดเวลาด้วย มันไม่ถูกต้อง มันดูไม่เหมาะกับนักเตะที่ประสบความสำเร็จมากมายในเกมนี้”