บรูโน่ แฟร์นันด์ มิดฟิลด์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระบุว่า เอริก เทน ฮาก นายใหญ่ของทีมคู่ควรกับการได้โทรฟี่แชมป์ เอฟเอ คัพ มาครอง

    “ปีศาจแดง” หักปากกาเซียนโค่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ในเกมชิงถ้วยที่สนาม เวมบลีย์ จากประตูของ อเลฮานโดร การ์นาโช่ และ ค็อบบี้ เมนู ในครึ่งหลัง โดยทาง “เรือใบ” มาตีไข่แตกได้จาก เฌเรมี โดกู แต่ไล่ไม่ทัน ส่งผลให้ ยูไนเต็ด ได้แชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 13

    นายใหญ่ชาวเนเธอร์แลนด์ อยู่ภายใต้ความกดดันอย่างหนักตลอดซีซั่นนี้และเสี่ยงที่จะตกงาน แต่ทาง บรูโน่ ปกป้องเจ้านายพร้อมยกย่องว่าคู่ควรกับการคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ

    เมื่อถูกถามถึงชัยชนะจะพิเศษมากสำหรับ เทน ฮาก หรือไม่ กัปตันทีมยูไนเต็ดกล่าวกับ บีบีซี สปอร์ต ว่า “มันพิเศษสำหรับทุกคน”

    “แน่นอนว่าเรารู้ว่าผู้จัดการทีมอยู่ภายใต้การตรวจสอบมากเกินไป แต่มันเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ทั้งนักเตะ, สตาฟฟ์, เราทุกคนรู้ว่าเราจะอยู่ภายใต้สิ่งนั้น”

    “ผู้จัดการทีมมีประสบการณ์มากพอและเขารู้ เขาคู่ควรได้รับมัน (แชมป์ เอฟเอ คัพ), ทุกคนในวันนี้รวมถึงสตาฟฟ์, ทีมงานเบื้องหลัง, ทุกๆ คน, นักฟุตบอล เราทุกคนคู่ควรจะได้แชมป์”

แกรี่ ลินิเกอร์ ตำนานกองหน้าทีมชาติอังกฤษ ตั้งข้อสงสัยว่า กาเซมีโร่ แกล้งเจ็บเพื่อถอนตัวจากเกมชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สนาม เวมบลีย์ วันเสาร์ที่ผ่านมา

    มิดฟิลด์ชาวบราซิลโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านเรื่องของฟอร์มการเล่น โดยเจ้าตัวมีชื่อเป็นตัวสำรองในเกมนี้ แต่ก่อนจะเริ่มเกมทาง “ปีศาจแดง” เผยว่า กาเซมีโร่ จะไม่มีส่วนร่วมกับเกมนี้เนื่องจากบาดเจ็บในระหว่างวอร์มร่างกายโดยใส่ชื่อของ วิลลี่ คัมบวาล่า เข้ามาแทน

    เอริก เทน ฮาก ให้เหตุผลว่า กาเซมีโร่ ไม่เต็มร้อยในขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ระบุว่า กาเซมีโร่ บาดเจ็บในตอนท้าย ซึ่งทาง ลินิเกอร์ ตั้งข้อสงสัยว่า กาเซมีโร่ อาจจะไม่พอใจที่เป็นแค่ตัวสำรองเลยแกล้งเจ็บเพื่อออกจากทีม

    “มีการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ อย่างหนึ่ง…. กาเซมีโร่ ที่อยู่บนม้านั่งสำรอง, บาดเจ็บและออกจากทีมไป, บางทีเขาอาจจะไม่พอใจที่ไม่มีชื่อเป็นตัวจริง” ลินิเกอร์ กล่าวผ่าน บีบีซี

    สำหรับผลการแข่งขัน แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 2-1 จากประตูของ อเลฮานโดร การ์นาโช่ และ ค็อบบี้ เมนู ส่วนทาง แมนฯ ซิตี้ ตีไข่แตกจาก เฌเรมี โดกู

เอริก เทน ฮาก รอลุ้นช่วงสัปดาห์หน้าว่าจะพ้นตำแหน่งผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างที่มีกระแสออกมาหรือไม่

หลายวันที่ผ่านมาสื่ออังกฤษระบุว่าบอร์ดบริหารที่นำโดยทีมงาน เซอร์ จิม แร็ตคลิฟฟ์ ตัดสินใจแยกทาง ‘อีทีเอช’ หลังจบศึก เอฟเอ คัพ ไม่ว่าผลการแข่งขันจะออกมาเป็นเช่นไร

แม้มีสื่อใหญ่บางรายออกมาโต้ข่าว แต่ไม่ได้ทำให้กระแสดังกล่าวลดลงเพราะส่วนใหญ่เชื่อตามกันว่า เทน ฮาก คงชะตาขาดและโดนปลดอย่างแน่นอน

ณ ตอนนี้หลายคนกำลังจับตาก้าวต่อไปของทีมงานปิศาจแดงจะดำเนินไปในทิศทางเดียวกับกระแสข่าวที่ออกมาหรือไม่ ซึ่งทาง เทน ฮาก เพิ่งพาทีมพลิกชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มาครอง

สื่อหลายรายมั่นใจว่า แร็ตคลิฟฟ์ พร้อมตัดสินในช่วงต้นสัปดาห์ที่กำลังมาถึงนี้เพื่อประกาศอนาคต เทน ฮาก กับ แมนฯ ยูไนเต็ด จะได้ทำงานต่อไปหรือหยุดลงไว้เพียงเท่านั้น

ฝั่ง เทน ฮาก ออกมาตอบโต้กระแสข่าวว่าไร้สาระ แต่มีการให้สัมภาษณ์ว่าตนเองพร้อมไปหากบอร์ดบริหารมองตนเองไม่เหมาะสมกับหน้าที่ ซึ่งหลังจากนั้นคงเดินหน้าทำทีมอื่นๆ ต่อไปและมุ่งมั่นคว้าแชมป์ตามเป้าหมายเดิม

คริสเตียน เอริคเซ่น กองกลางเดนมาร์ก จะพิจารณาอนาคตของตัวเองอย่างละเอียดรอบคอบ หลังมีโอกาสย้ายกลับ อาแจ็กซ์ ก่อนหมดสัญญาปัจจุบันหนึ่งปี

เดอะ ซัน สื่ออังกฤษ รายงานว่า เอริคเซ่น จะได้รับโอกาสจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม สโมสรแรกในเส้นทางนักฟุตบอล ที่ต้องการดึงตัวกลับไปชุบชีวิตใหม่อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม มิดฟิลด์วัย 32 ปี จะชะลอการตัดสินใจครั้งสำคัญ เอริคเซ่น ที่มีสัญญากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกหนึ่งปี หรือจนถึงปี 2025 จะรอการตัดสินใจของสโมสรว่าจะปลดผู้จัดการทีม เอริค เทน ฮาก ออกจากตำแหน่งหรือไม่ ตามรายงานระบุว่า กองกลางทีมชาติเดนมาร์กพร้อมปักหลักอยู่ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต่อไป หาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดสินใจทำการเปลี่ยนแปลง แล้วเลือก เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เจ้านายเก่าที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มาเป็นเฮดโค้ชคนใหม่ ด้าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การบริหารงานด้านฟุตบอลของ เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ วางแผนที่จะปรับปรุงโครงสร้างทางการเงินภายในทีม และพิจารณาโละ เอริคเซ่น ที่รับค่าเหนื่อยสูงถึง 150,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ทั้งนี้ เอริคเซ่น มีผลงานที่น่าพอใจปีแรกกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ซีซั่นนี้ประสบปัญหาบาดเจ็บและฟอร์มตกลงไปเยอะ จนไม่ได้รับความไว้วางใจจาก เทน ฮาก เช่นเดียวกับเกมเอฟเอคัพ รอบชิงชนะเลิศ ที่ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 อดีตมิดฟิลด์ สเปอร์ส นั่งสำรองและไม่ถูกเปลี่ยนลงสนาม

เวส บราวน์ อดีตกองหลังของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มองว่าทีมเก่าควรซื้อ ไมเคิ่ล โอลิเซ่ และ จาร์ราด แบรนธ์เวท มาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้

    “ปีศาจแดง” เจอกับความผิดหวังเรื่องผลงานในซีซั่นนี้หลังจบไกลถึงอันดับ 8 ของ พรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นอันดับแย่ที่สุดของสโมสรในรอบ 34 ปี โดยคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงพอสมควรในช่วงซัมเมอร์นี้และทาง บราวน์ ก็หนุนทีมซื้อแข้งที่ทำผลงานได้ดีอย่าง โอลิเซ่ และ แบรนธ์เวท ร่วมทีม   

    “ผมเป็นคนที่มองโลกตามความเป็นจริงและผมก็เป็นคนที่คิดเสมอ, คุณรู้ไหม, ใครที่แสดงผลงานในพรีเมียร์ลีกมาแล้ว?” บราวน์ กล่าวกับ สปอร์ตไบเบิ้ล “ผมคิดว่าเราต้องการนักเตะที่แข็งแกร่งจากทีมอื่น คนที่โชว์ผลงานได้ดี”

    “ผมจะบอกว่า ไมเคิ่ล โอลิเซ่ ของ คริสตัล พาเลซ, ผมคิดว่าเขาน่าตื่นตาตื่นใจมาก เขามีความดิบในตัว, เขาดูไม่กลัวอะไรเลย”

    ขณะเดียวกัน บราวน์ พูดถึง แบรนธ์เวท ว่า “ผมคิดว่าสิ่งชัดเจนที่สุดคือแนวรับและ จาร์ราด แบรนธ์เวท คือคนนั้นสำหรับผม, เด็กอายุน้อยและยังต้องเรียนรู้ แต่เขาตัวใหญ่, มีความแข็งแกร่งและมีความเร็ว”

    “ผมรู้สึกว่าเขาจะช่วยได้อย่างมาก”

เอ็ด ชวาร์ตซ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่สโมสร อิปสวิช ทาวน์ น้องใหม่พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลงทุนบินจากสหรัฐฯข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกสู่เมืองผู้ดีด้วยตัวเองเพื่อหว่านล้อมเฮดโค้ช คีแรน แม็คเคนน่า ร่วมงานกันต่อไป ดีกว่าย้ายออกไปอยู่ค่ายใหญ่

รายงานจาก ‘สกาย สปอร์ตส์’ ว่ากุนซือวัย 38 ปีเนื้อหอมถูกรุมตอมจาก แมนฯ ยูไนเต็ด, เชลซี และ ไบรท์ตัน อยากได้มาเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนใหม่ แล้วท่าทีจากเจ้าตัวก็เอนเอียงไปทางย้ายออกจากพอร์ตแมน โร้ด 

นั่นทำให้ ชวาร์ตซ์ ต้องมาเคลียร์ด้วยตัวเอง ผนึกกำลังกับ ซีอีโอ มาร์ก แอชตัน เพื่อหารือกับกุนซือชาวอังกฤษเพื่อกล่อมให้ช่วยงานกันต่อไปแลกข้อเสนอใหม่ที่ขยายเวลาผูกมัดและเพิ่มค่าเหนื่อย 

ก็ต้องติดตามว่าบทสรุปของเรื่องจะเป็นอย่างไร เนื่องจาก แม็คเคนน่า ค่อนข้างผูกพันกับ ‘ปีศาจแดง’ เคยเป็นโค้ชทีมเยาวชนและสตาฟฟ์ชุดใหญ่ยุคอดีตผจก.ทีม โชเซ่ มูรินโญ่ ต่อเนื่อง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา 

ทั้งมีการอ้างว่าสัปดาห์ก่อนคนจากทีม ยูไนเต็ด มีหารือนอกรอบกับตัวแทนของ คีแรน แล้วด้วย

สโมสร เชลซี เตรียมงบประมาณไม่น้อยกว่า 60 ล้านปอนด์ เพื่อเป็นค่าตัวของ ไมเคิ่ล โอลิเซ่ ปีกค่าย คริสตัล พาเลซ คู่แข่งร่วมลีก แต่ทั้งนี้จะไม่มีการตอบรับใดๆจากฝั่งนักเตะจนกว่าทราบว่าเจ้านายใหญ่คนใหม่ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เป็นใคร

รายงานจาก ‘มิร์เรอร์ ฟุตบอล’ ว่า แข้งวัย 22 ปี โชว์ฟอร์มอย่างน่าประทับใจกับ ‘ดิ อีเกิ้ลส์’ ด้วยการทำ 10 ประตูกับ 5 แอสซิสต์ จากการลงเล่นตัวจริงเพียง 3 จาก 18 นัดใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษฤดูกาลนี้ จนเข้าตา ‘สิงห์บลูส์’ ซึ่งกำลังมองหาตัวแทน ราฮีม สเตอร์ลิ่ง แข้งขาลง 

สนนราคา 60 ล้านปอนด์ คือเรตที่ เชลซี เชื่อว่า พาเลซ จะยอมคายปีกเฟร้นช์แมนมาอยู่กับพวกเขา แล้วสโมสรสามารถจัดสรรงบประมาณเสริมทัพตามที่เฮดโค้ช โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ ร้องขอ 

อย่างไรก็ตามคำขาดจากตัวแทน โอลิเซ่ คือยังไม่มีการตัดสินใจใดๆกับ ‘สิงห์บลูส์’ จนกว่าจะได้ข้อสรุปเฮดโค้ชคนใหม่แทน เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ซึ่งแยกทางออกไป 

บรรดารายชื่อตัวเต็งบอสใหม่แห่ง เดอะ บริดจ์ อย่างเช่น เอ็นโซ่ มาเรสก้า (เลสเตอร์), คีแรน แม็คเคนน่า (อิปสวิช) หรือ โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ (ว่างงาน)  

สโมสร พลีมัธ แห่งแชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ แถลงการณ์แต่งตั้ง เวย์น รูนี่ย์ ขึ้นเป็นเฮดโค้ชใหม่เพื่อลุยปรี-ซีซั่น 2024 ยกระดับจากแค่ทีมเกือบตกชั้นให้ดีกว่าเดิม

ประสบการณ์ที่ผ่านมาของอดีตกองหน้า แมนฯ ยูไนเต็ด คือการคุม ดาร์บี้ เคาน์ตี้, ดี.ซี. ยูไนเต็ด ของ เมเจอร์ลีก ซอคเก้อร์ สหรัฐฯ​และ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 

“การรับตำแหน่งที่ พลีมัธ รู้สึกเหมือนการเลื่อนสู่ขั้นต่อไปของอาชีพที่สมบูรณ์แบบ – แล้วอยากขอบคุณประธานสโมสร และบอร์ดต่อความเชื่อมั่นที่พวกเขาแสดงต่อผม” รูนี่ย์ เปิดปาก 

“นี่คือโอกาสที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโปเรจคต์อันน่าตื่นเต้น ตั้งตารอจะได้สร้างขุมกำลังผู้เล่นเพื่อขัดเกลาไว้ต่อยอด และสร้างความบันเทิงแก่แฟนบอล ‘กรีน อาร์มี่’”

พลีมัธ เพิ่งแยกทางจากเฮดโค้ชอย่าง เอียน ฟอสเตอร์ เมื่อเม.ย.ที่ผ่านมาหลังอยู่ในตำแหน่ง 3 เดือน โดยเขามาเสียบแทน สตีเว่น ชูมักเคอร์ ซึ่งลาทีมไปคุม สโต๊ค ตอน ม.ค. 2024

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หักปากกาเซียนคว้าตั๋วเอฟเอ คัพ ไปครองด้วยการเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 พร้อมกับได้ตั๋วลุยศึกยูโรปา ลีก ฤดูกาลหน้า

แมนฯ ซิตี้ ส่งอาวุธหนักทั้ง เออร์ลิง ฮาแลนด์, เควิน เดอ บรอยน์, ฟิล โฟเด้น ลงเล่นเกมรุก ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด ปรับแท็กติกไม่มีกองหน้าโดยให้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ กับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ดันสูง

เริ่มเกมมานาทีที่ 9 แมนฯ ยูไนเต็ด ทักทายก่อนจาก บรูโน่ แฟร์นันด์ส ผ่านบอลให้ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ยิงด้วยขวาในเขตโทษ แต่ว่าติดเซฟ สเตฟาน ออร์เตก้า 

แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายออกนำก่อน 1-0 ในนาที 30 จากความผิดพลาดในแนวรับของ แมนฯ ซิตี้ ที่ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล โหม่งคืนหลังไม่เข้าใจกับ สเตฟาน ออร์เตก้า บอลจึงห้ามหัว ออร์เตก้า ทำให้ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ได้ยิงโล่งๆ เข้าไป

อีก 7 นาทีถัดมา แมนฯ ยูไนเต็ด อเลฮานโดร การ์นาโช่ แทงบอลให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ยิงผ่านมือ ออร์เตก้า ทว่าตำแหน่งของ การ์นาโช่ ล้ำหน้า จึงไม่ได้ประตู

ทว่า ผีแดง เอาประตูนำ 2-0 จนได้ใสอีกนาทีเศษถัดมาเมื่อ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ได้บอลทางขวาก่อนจ่ายเข้ากลาง บรูโน่ แฟร์นันด์ส ตวัดอีกทีไปถึง ค็อบบี้ เมนู ยิงเน้นๆ ตุงตาข่าย

ครึ่งหลังนาที 55 แมนฯ ซิตี้ เกือบตีไข่แตกได้จากจังหวะที่ เฌเรมี่ โดกู จ่ายบอลให้ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ยิงด้วยซ้ายในเขตโทษ บอลผ่านมือ อ็องเดร โอนาน่า ไปแล้วแต่ว่าชนคานอย่างจัง

อีก 2 นาทีถัดมา แมนฯ ซิตี้ ต้องปรับเกมรุกถอด เควิน เดอ บรอยน์ ออกแล้วส่ง ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ เล่นแทน

แมนฯ ซิตี้ ทิ้งโอกาสทองที่จะได้ประตูไปอีกครั้งในนาที 64 ฟิล โฟเด้น แทงบอลให้ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ หลุดแล้วซัดด้วยซ้าย ทว่าโดน โอนาน่า ออกมาเร็วทำให้ช่วยปิดมุมยิงและซัดหลุดกรอบออกหลังไป

  ท้ายเกมนาที 87 แมนฯ ซิตี้ ได้ประตูตีไข่แตกจนได้จากจังหวะที่ เฌเรมี่ โดกู ได้บอลฝั่งซ้ายก่อนโยกแล้วยิงด้วยขวา อ็องเดร โอนาน่า เซฟไม่ดีทำให้บอลเข้าเสาแรก สกอร์จึงเป็น 2-1 

จากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ช่วยกันเล่นเกมรับทำให้รักษาสกอร์เอาไว้ได้จนจบเกม จึงเป็นฝ่ายชนะ แมนฯ ซิตี้ 2-1 คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ไปครองพร้อมได้ตั๋วลุยศึกยูโรปา ลีก ฤดูกาลหน้า และเป็นการคว้าแชมป์สมัย 13 เป็นรอง อาร์เซน่อล เพียงสมัยเดียว

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

แมนฯ ซิตี้ : สเตฟาน ออร์เตก้า – ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, นาธาน อาเก้, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล – โรดรี้ เอร์นานเดซ, มาเตโอ โควาซิช – แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เควิน เดอ บรอยน์, ฟิล โฟเด้น – เออร์ลิง ฮาแลนด์

แมนฯ ยูไนเต็ด : อ็องเดร โอนาน่า – อารอน วาน-บิสซาก้า, ราฟาแอล วาราน, ลีซานโดร มาร์ตีเนซ, ดีโอโก้ ดาโล่ต์ – อเลฮานโดร การ์นาโช่ , โซฟียาน อัมราบัต, ค็อบบี้ เมนู, อเลฮานโดร การ์นาโช่ – สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, บรูโน่ แฟร์นันด์ส

ผู้ตัดสิน : แอนดี้ แมดลี่ย์

ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตกองหลังคนดังยอมรับว่ามองไม่ออกเลยว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึก เอฟเอ คัพ ได้ยังไง

    สองทีมจาก แมนเชสเตอร์ เตรียมเปิดศึกถึงถ้วยใบสุดท้ายของ อังกฤษ ในวันเสาร์นี้ที่ เวมบลีย์ แต่เมื่อมองจากผลงานและศักยภาพในตอนนี้ทำให้ทาง ริโอ ยอมรับว่ามองไม่เห็นมุมไหนที่ทีมเก่าจะชนะในเกมนี้ได้เลย

    “จากสิ่งที่ผมได้เห็นในซีซั่นนี้จากทั้งสองทีมทั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ผมไม่มีความมั่นใจเลย ผมต้องบอกแบบนั้น” ริโอ กล่าวผ่านทาง ไฟฟ์ ยูทูบ

    “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็น แมนฯ ยูไนเต็ด ชิงแชมป์บอลถ้วยและมีโอกาสน้อยมากจริงๆ ที่จะชนะเกมนี้ได้, คุณหนุนหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ‘มันคือเกมชิงบอลถ้วย, แมนฯ ยไนเต็ด จะชนะเกมนี้’ หรือ ‘แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสที่ดีในการคว้าแชมป์'”

    “ช่องว่างระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด และ ซิตี้ มันห่างกันมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ถ้าหัวใจผมบอกตามตรง มันจะเป็นการลงสู่เกมนี้พร้อมความมั่นใจได้ยังไงกัน? มันต้องใช้ความพยายามอย่างบ้าคลั่งรวมถึงโชคอย่างมหาศาลสำหรับเราที่จะได้อะไรจากเกมนี้”

    เมื่อถูกถามเรื่องสกอร์ ริโอ กล่าวว่า “หัวใจของผมบอกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะไปถึงดวลจุดโทษและชนะได้ แต่หัวของผมบอกว่า ซิตี้ จะเอาชนะเราได้”