Tag: ลิเวอร์พูล

สโมสร เชลซี มีโอกาสสูงถึง 32.3% ที่จะถูกจับสลากให้โคจรไปพบกับ เรอัล มาดริด ในรอบ 16 ทีม แชมเปี้ยนส์ ลีก จันทร์หน้าด้วยเงื่อนไขความเป็นไปได้ ขณะที่ทีม มหาชน แมนฯ ยูไนเต็ด มีลุ้นชนของแข็งอย่าง แอต.มาดริด และ อินเตอร์ มิลาน

การจับสลากประกบคู่รอบน็อคเอาต์ชปล. 2021-22 ที่เมืองนียงประเทศสวิตเซอร์แลนด์จันทร์หน้าเงื่อนไขคือสโมสรจากชาติเดียวกันไม่เจอกันเอง, ทีมที่เคยอยู่ร่วมกลุ่มไม่เจอกันอีก 

โดย ‘สิงห์บลูส์’เป็นค่ายเดียวจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ไม่สามารถจบฐานะแชมป์กรุ๊ป สเตจ เท่ากับว่าตัดชื่อของ แมนฯ ซิตี้ , ลิเวอร์พูล และ ยูไนเต็ด ออกไป รวมถึง ยูเวนตุส ที่ร่วมกลุ่มกันมา 

จึงเหลือความเป็นไปได้กับ บาเยิร์น มิวนิค, อาแจ็กซ์, ลีลล์ และ ‘ราชันชุดขาว’ ซึ่งทวิตเตอร์ @2010MisterChip ทำการคำนวณแล้วพบว่า ทีมของ โธมัส ทูเคิ่ล น่าจะผ่านไปชนกับลูกน้อง คาร์โล อันเชล็อตติ มากสุด 32.31%

ต่อด้วย ยูไนเต็ด จบแชมป์กลุ่มมา โอกาสพบรองแชมป์กลุ่มแข็งๆอย่าง ‘ตราหมี’ กับ ‘งูใหญ่’ สูงที่ 18.57% 

แมนฯ ซิตี้ เต็งหนึ่งรายการจบแชมป์กลุ่มเช่นกัน ถูกเกลี่ยความน่าจะเป็นที่ 18.57% ว่าจะพบ อินเตอร์, แอต.มาดริด และ บียาร์เรอัล 

ปิดท้ายกับ ลิเวอร์พูล เจ้าของผลงานชนะ 100% กรุ๊ป สเตจ โอกาสจะพบ บียาร์เรอัล และ อินเตอร์ มิลาน สูงสุดที่ 18.57% 

เกมแดงเดือดระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ที่ต้องเลื่อนมาจากสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้คิวกำหนดวันแข่งใหม่แล้ว โดยจะเป็นวันพฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคม

    การแข่งขันคู่ระหว่าง ผีแดง กับ หงส์แดง เมื่อวันอาทิตย์ต้องเลื่อนออกไปเนื่องด้วยการประท้วงของแฟนบอลเจ้าถิ่นทำให้ต้องมีการกำหนดคิวแข่งใหม่ ซึ่งจะเริ่มในวันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม และหมายความว่า ยูไนเต็ด จะต้องเล่น 3 เกมใน 5 วัน

    ผีแดง จะต้องออกไปเยือน แอสตัน วิลล่า ในวันอาทิตย์ที่ 9 พฤษภาคม จะต้องแข่งกับ เลสเตอร์ ต่อในวันอังคารที่ 11 พฤษภาคม (เลื่อนมาจากวันพุธที่ 12 พฤษภาคม) และก็จะเป็นคิวพบ ลิเวอร์พูล ในวันพฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคม โดยสองเกมหลังจะเล่นที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

    สำหรับพรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้จะสิ้นสุดฤดูกาลในวันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม

แมนฯ ยูไนเต็ด ออกแถลงยืนยันแล้วว่าเกมแดงเดือดที่จะพบ ลิเวอร์พูล ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ถูกเลื่อนออกไปเป็นวันอื่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังเกิดเหตุแฟนบอล ผีแดง ประท้วงต่อต้านตระกูลเกลเซอร์ อย่างหนัก

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ออกมายืนยันว่าพวกเขาต้องเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ให้ได้ในวันอาทิตย์นี้ หากต้องการที่จะไปเล่นฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีก ในซีซั่นหน้า

    นายใหญ่ หงส์แดง เชื่อว่าการที่ ผีแดง ต้องเล่นยูโรปา ลีก ในวันพฤหัสบดีทำให้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เจอความยากลำบากในการเตรียมทีมของเขาให้พร้อมสำหรับเกมแดงเดือด

    คล็อปป์ คิดว่า ยูไนเต็ด ยังคงคิดถึงเรื่องแชมป์ลีก เพราะพวกเขายังเชื่อว่ามีโอกาสที่จะทำแต้มแซง แมนฯ ซิตี้ ได้ แต่ก็ยืนยันว่า ลิเวอร์พูล เองก็ต้องการสามแต้มเพื่อโอกาสจบในท็อปโฟร์เช่นกัน

    เมื่อถูกถามว่า ลิเวอร์พูล จะต้องบุกชนะที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หรือไม่ คล็อปป์ ตอบว่า “มากกว่า 100 เปอร์เซ็นต์อีก หากไม่ชนะ เราก็ไม่มีโอกาสได้ไปเล่นฟุตบอลยุโรป”

    จากนั้นนายใหญ่ชาวเยอรมันก็ถูกถามถึงฟอร์ม และโปรแกรมที่แออัดของ ยูไนเต็ด ซึ่งเขาก็ตอบว่า “เมื่อคุณเล่นในวันพฤหัสบดี และวันอาทิตย์ทุกสัปดาห์ คุณจะชินกับมัน แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ดีขึ้นหรอก”

    “มันเป็นความท้าทายที่ยากสำหรับพวกเขา ฟื้นตัววันศุกร์ ฟื้นตัววันเสาร์เป็นวันที่สอง และจากนั้นก็ลงเล่น พวกเขาไม่มีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงอะไร แต่ผมไม่คิดพวกเขาต้องการมันจริงๆ ในตอนนี้หรอกนะ”

    “มันจะเป็นเกมที่ยาก เป็นเกมที่เข้มข้น เราดู ยูไนเต็ด เมื่อคืนนี้ (วันพฤหัสบดี) และพวกเขาก็ทำได้ดี!”

    “มันเป็นแบบนั้นแน่ถ้าคุณปล่อยให้พวกเขาได้เล่น พวกเขาจะบิน ผมค่อนข้างมั่นใจว่า ยูไนเต็ด ยังรู้สึกว่าพวกเขามีโอกาส (คว้าแชมป์ลีก) ทั้งสองทีมต้องชนะ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ดีสำหรับเกมนี้”

ลิเวอร์พูล ขยับแซงหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เรื่องค่าจ้างรวมของ 20 สโมสรพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่ยังคงตามหลังเบอร์หนึ่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้

เดอะ ซัน สื่ออังกฤษ เปิดเผยตัวเลขรายจ่ายของสโมสรพรีเมียร์ลีกเฉพาะค่าจ้างของนักฟุตบอลเมื่อฤดูกาล 2019-20 พบว่า ลิเวอร์พูล ก้าวขึ้นแซงหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นอันดับสองของลีกสูงสุดอังกฤษแล้ว

ตัวเลขอย่างเป็นทางการระบุว่า ลิเวอร์พูล จ่ายค่าจ้างนักเตะไปทั้งสิ้น 325 ล้านปอนด์ เป็นอันดับสองของพรีเมียร์ลีก ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่แสดงความไร้เทียมทานด้วยตัวเลข 351 ล้านปอนด์

ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หล่นมาอยู่อันดับสาม มีตัวเลขอยู่ที่ 284 ล้านปอนด์ แม้ว่าจะจ่ายค่าจ้างของ ดาบิด เด เคอา เพิ่มขึ้นเป็น 375,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ตอนเริ่มต้นฤดูกาลก็ตาม ส่วนอันดับสี่ไล่บี้มาติดๆ เชลซี จ่ายน้อยกว่า ผีแดง แค่ 1 ล้านปอนด์

ส่วนอีกสองทีม ‘บิ๊ก 6’ อาร์เซน่อล จ่ายไป 225 ล้านปอนด์ และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ จ่ายแค่ 181 ล้านปอนด์เท่านั้น

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล กำลังเจรจากันวางแผนเตะอุ่นเครื่องปรีซีซั่นสองนัดก่อนเริ่มฤดูกาลหน้า หากต้องพับโครงการเดินทางข้ามทวีปไปกอบโกยเงิน

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล เป็นหนึ่งในหลายสโมสร ที่ตักตวงรายได้จากช่วงปรีซีซั่น ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางมาที่ทวีปเอเชีย หรือไปเล่นที่สหรัฐอเมริกา แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ทุกสโมสรต้องขาดรายได้ตรงนี้ไปตั้งแต่ปีที่แล้ว

เดอะ มีร์เรอร์ สื่ออังกฤษ รายงานว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล กำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาเพื่อวางโปรแกรมอุ่นเครื่องปรีซีซั่นสองนัดก่อนเริ่มต้นฤดูกาล 2021-22 หากไม่สามารถเดินทางไปอุ่นเครื่องที่ต่างแดนได้ เพราะข้อจำกัดในเรื่องการเดินทาง และการกักตัว

แผนการคร่าวๆ ของทั้งสองสโมสรจะอุ่นเครื่องสองนัดที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และ แอนฟิลด์ นัดแรกในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม และนัดสองในช่วงต้นเดือนสิงหาคม และคาดว่าทั้งสองเกมจะเปิดให้แฟนบอลจำนวนหนึ่งเข้าสนาม เป็นการทดสอบความพร้อมหากได้รับอนุญาติให้แฟนบอลกลับคืนสนามจริงๆ ในฤดูกาลใหม่

ด้าน เดลี่ เมล เปิดเผยว่า ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่ได้วางแผนอุ่นเครื่องในต่างแดนช่วงปรีซีซั่นของฤดูกาลใหม่ แต่จะไปเก็บตัวกันที่ฝรั่งเศส และออสเตรีย ซึ่งคาดว่าจะกลับไปที่เอวียงเป็นปีที่สองติดต่อกัน

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ออกมาเปรยว่าพร้อมจะจัดทีมแบบเต็มสูบในเกมที่จะพบกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเอฟเอ คัพ วันอาทิตย์นี้ เพื่อเส้นทางที่จะกลับมาสู่ชัยชนะอีกครั้ง

    หงส์แดง ผลงานดิ่งเหวมาก โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาก็แพ้ เบิร์นลี่ย์ คาถิ่นแอนฟิลด์ 0-1 หยุดสถิติไร้พ่ายในรัง 68 นัด ซึ่งทีมของ คล็อปป์ เก็บได้เพียง 3 คะแนน จาก 5 นัดหลังสุด และทำให้พวกเขาหล่นมาอยู่อันดับ 4 ของตารางแล้ว

    กระนั้นนายใหญ่ชาวเยอรมันก็ดูผ่อนคลายลง ขณะที่เขามองไปยังเกมที่จะพบกับ ผีแดง และแสดงความปรารถนาที่จะเอาชนะคู่ปรับตลอดกาลให้ได้

    “เกมจะถูกตัดสินในคืนนั้น และเราต้องการที่จะเป็นฝ่ายชนะ ดังนั้นนั่นคือวิธีที่เราจะเลือกทีม” คล็อปป์ กล่าว โดยไม่สนใจการโรเตชั่น

    “มันเป็นการแข่งขันที่แตกต่าง และเราต้องการที่จะผ่านเข้ารอบให้ได้ และเราต้องเล่นให้ดีด้วย ยูไนเต็ด เป็นทีมที่ดีมากในตอนนี้ เราต้องเตรียมตัวให้พร้อม”

    ในทางตรงกันข้าง ยูไนเต็ด แพ้เพียงแค่เกมเดียวจาก 12 นัดหลังสุด ซึ่งก็คือเกมลีก คัพ รอบตัดเชือกที่พบ แมนฯ ซิตี้

    โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ถูกดร็อปเป็นตัวสำรองในเกมเมื่อวันพฤหัสบดีอาจจะกลับคืนตัวจริงในเกมที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เช่นเดียวกับ เจมส์ มิลเนอร์ และ เคอร์ติส โจนส์ ซึ่งกำลังมองหาโอกาสออกสตาร์ทด้วย

แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ นักวิเคราะห์ สกาย สปอร์ตส์ มองว่าฝ่ายยุทธศาสตร์ ลิเวอร์พูล ทำงานผิดพลาดกรณีไม่มีผู้รักษาประตูมือสองที่วางใจได้มากกว่า อาเดรี่ยน ซาน มิเกล แถมตลาดซัมเมอร์ที่เพิ่งปิดไปก็สมควรกระชาก เซร์คีโอ โรเมโร่ ของ แมนยูไนเต็ด เข้ามา

“แอบเสียดายแทน ลิเวอร์พูล ไม่ได้ว่า ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสดึง โรเมโร่ ไปได้อย่างไร เพราะแชมป์เก่าต้องการผู้รักษาประตูเพิ่มมากกว่าที่ เอฟเวอร์ตัน จำเป็นเสียอีก” เร้ดแน็ปป์ กล่าวกับ ‘สกาย สปอร์ตส์’

“หาก อาลีสซง หายหน้าไปอีกพักใหญ่ มันจะเป็นปัญหาสำคัญแก่ ‘หงส์แดง’ แหงๆ พวกเขาจำเป็นต้องมีแบ็คอัพที่เชื่อมือได้มากกว่านี้”

เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลังของ ลิเวอร์พูล ชี้ว่าการที่เสียงของแฟนบอลพยายมกระตุ้นให้ทีมคว้า ติอาโก้ อัลกันตาร่า มาร่วมทีมให้ได้เป็นการไม่ให้เกียรติบรรดามิดฟิลด์ของทีมเลย

“หงส์แดง” มีข่าวอย่างหนักกับการคว้ามิดฟิลด์ของ บาเยิร์น มิวนิค มาร่วมทีม แต่สโมสรไม่พร้อมจ่ายค่าตัวที่ทาง “เสือใต้” ต้องการทำให้ยังไม่มีความคืบหน้าจนตอนนี้มี แมนเชสเตร์ ยูไนเต็ด ที่เริ่มเข้ามาเกี่ยวข้องอีกทีม

อย่างไรก็ตามทาง คาร์ราเกอร์ มองว่าการที่แฟนบอลพยายามเร้าให้สโมสรซื้อกองกลางทีมชาติสเปนร่วมทีมเป็นการไม่ให้เกียรติเหล่ามิดฟิลด์ของทีมเอาซะเลย

“ผมคิดว่าเสียงโวยวายเพื่อให้ทีมคว้า ติอาโก้ มันเป็นอะไรที่ดูไม่เคารพสามกองกลางของ ลิเวอร์พูล สักเท่าไรนะ” คาร์ราเกอร์ กล่าวกับสกาย สปอร์ตส์

“ใช่ เขาจะนำมาซึ่งความแตกต่าง ไม่ต้องสงสัยในเรื่องนั้น แต่ถ้าเขาไม่ได้ย้ายมา มันก็ไม่ได้หมายความว่าโลกถึงจุดจบ ลิเวอร์พูล ยังคงมีกองกลางที่ยอดเยี่ยมไม่เปลี่ยนแปลง”

บรรดาสโมสรในเวทีพรีเมียร์ลีกพร้อมเห็นชอบเพื่อตกลงให้มีการถ่ายทอดสดฟุตบอลในทุกๆ เกมตลอดช่วงเดือนนี้ หรือจนกว่าจะมีคำสั่งอนุญาตให้แฟนบอลเข้าสนามได้อีกครั้ง

เดิมที่บรรดา 20 สโมสรในลีกสูงสุดรวมไปถึงบอร์ดบริหารของทีมต่างๆ ต้องการได้รับอนุญาตจากทางการให้นำแฟนบอลกลับมาชมเกมในสนามแข่งอีกครั้งในฤดูกาล 2020/21 โดยมีรายงานว่าอาจจะได้รับอนุญาตให้นำแฟนบอลเข้าสนามจำนวน 25 เปอร์เซ็นต์ ภายในวันที่ 1 ตุลาคม

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอังกฤษกำลังกังวลถึงการกลับมาระบาดอีกครั้งของไวรัสโควิด-19 ซึ่งที่ผ่านมาทางการเมืองผู้ดีต้องกำชับประชาชนให้ระวังและป้องกัน โควิด-19 อย่างต่อเนื่องหลังจากมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มเติม

โดยล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา  มีรายงานจาก เดอะ ซัน เผยว่าทั้ง 20 สโมสรในเวทีพรีเมียร์ลีกได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนและเห็นชอบว่าจะทำการตกลงเปลี่ยนแปลงโปรแกรมถ่ายทอดสดเพื่ออำนวยความสะดวกให้แฟนบอลสามารถรับชมเกมที่บ้านและไม่ต้องเดินทางมายังสนามแข่ง

ในรายงานเผยต่อไปว่าบรรดา ‘บิ๊ก 6’ ของลีกต่างเห็นชอบในเรื่องถูกสั่งห้ามแฟนบอลเข้าสนามเพราะกังวลกับความปลอดภัยของทั้งแฟนบอลและนักเตะรวมไปถึงทีมงาน ต่างจาก เวสต์แฮม และ คริสตัล พาเลซ ที่ไม่เห็นด้วยเพราะกังวลเรื่องรายรับที่ขาดหายไป

กระนั้นหลังจากมีการหารือนอกรอบก่อนลงมติจริง สื่อจากอังกฤษรายงานว่า 20 สโมสรจะเห็นชอบเรื่องการสั่งห้ามแฟนบอลเข้าสนาม และเพิ่มจำนวนถ่ายทอดสดเกมการแข่งขันผ่านโทรทัศน์หรือตัวแทนจนกว่าจะมีคำสั่งจากรัฐบาลอีกครั้ง