- 0
ผีเบาใจมีจอมเก๋าอีแวนส์เป็นชอยส์ศึกผ่าเมืองแมนฯ
รูเบน อาโมริม เฮดโค้ช แมนฯ ยูไนเต็ด มองภาพการโต้เถียงหลังจบเกมระหว่างสองผู้เล่น ราสมุส ฮอยลุนด์ กับ อาหมัด ดิยัลโล่ คือสัญญาณที่ดีของคนเอาการเอางาน หาใช่เล่นแบบขอไปที ดังนั้นอย่ามายุแยงให้เสียเรื่อง
ยูโรปา ลีก ลีก เฟส ที่ ‘ปีศาจแดง’แซงชนะ วิคตอเรีย พิลเซ่น 2-1 วานนี้ เพิ่มโอกาสให้ใกล้สิทธิผ่านเข้ารอบ 16 ทีมอัตโนมัติมากขึ้น ทั้งยังเป็นชัยชนะนอกบ้านที่หาได้ยาก
อย่างไรก็ตามมีประเด็นเมื่อสิ้นเสียงนกหวีดคือภาพ ฮอยลุนด์ ต่อปากต่อคำกับ อาหมัด ต่อหน้ากล้องถ่ายทอดสดถึงความคับข้องใจที่เกิดยังดูซาน อาเรน่า จนถูกกองแช่งเอาไปปั่นให้เกิดความแตกแยก
ประเด็นดังกล่าวกุนซือวัย 39 ปีมองว่าเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำที่ผู้เล่นทั้งสองคนมีอารมณ์ร่วมต่อผลงานทีมอย่างมาก เพราะหากเปรียบเทียบกับแข้งเก๋าบางรายที่เล่นแบบซังกะตาย เช้าชามเย็นชามจนโดนเปลี่ยนออก ทาง อาโมริม ชอบแพสชั่นจาก 2 หนุ่มมากกว่า
“ใช่เลยผมตระหนักว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อจบเกม ซึ่งส่วนตัวมองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวสมบูรณ์แบบ” อาโมริม เปิดปากเมื่อขึ้นมาอยู่ที่ 7 เมื่อผ่านหกแมตช์เดย์ ลีก เฟส
“จะอธิบายว่าในโมงยามแบบนั้นเราจำเป็นต้องรู้สึกอะไรสักอย่าง”
“หากเราต้องการสู้เพื่อกันและกัน มันคือครอบครัวเดียวกัน ส่วนตัวแล้วนี่คือสัญญาณที่ดีมากๆ”
“เราต้องลงเล่นแบบคนมีอารมณ์ร่วม สิ่งนั้นสำคัญและชัดเจน”
“เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เล่นแบบไม่ใส่ใจ มันก็ไม่มีผลงานใดๆปรากฏ”
“แต่เมื่อเราใส่ใจ เราสู้เคียงบ่าเคียงไหล่พี่-น้อง, เคียงข้างคุณพ่อ-คุณแม่ – สำหรับผมถือว่าภาพที่ออกมาคือทิศทางที่ดี”
“อะไรแบบนั้นเรื่องปกติ ผมพยายามมองในแง่บวก ให้คุณมากกว่าให้โทษ ดังนั้นก็ปล่อยเป็นหน้าที่ผู้เล่นคนอื่น ปล่อยกัปตันไปดับความหัวร้อนลูกทีม”
“แต่หากเห็นว่ามากไป ก็จะลงไปจัดการในห้องแต่งตัว แต่จังหวะนั้นมันพื้นที่ของพวกเขาที่จะคุยปรับความเข้าใจ, สู้ไปด้วยกัน – ถามผมคิดว่าเหตุการณ์นั้นมีประโยชน์”
ความกระเหี้ยนกระหือของสองพลังหนุ่มช่างสวนทางกับพวกแก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นานแบบ มาร์คัส แรชฟอร์ด ภาพรวมเหมือนแค่ลงไปให้ครบ 11 คนแล้วโดนเปลี่ยนออก